2/28/2556

Gay Male Video Pornography



Gay Male Video Pornography

            ถึงแม้ว่าภาพโป๊สำหรับเกย์จะมีสัดส่วนไม่มากนักในตลาดภาพโป๊ทั่วไป ( บางคนคาดคะเนว่าธุรกิจภาพโป๊ของเกย์มีมูลค่าประมาณหนึ่งในสาม หรือ ครึ่งหนึ่งของการค้าภาพโป๊ทั้งหมด 2.5 ล้านดอลล่าส์) แต่ในช่วงเวลา 20 ปีที่ผ่านมายังไม่มีการถกเถียงเกี่ยวกับภาพโป๊ อาจจะเป็นเพราะว่าผู้ที่ถกเถียงเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นกลุ่มเฟมินิสต์ที่กล่าวหาว่าภาพโป๊ทำให้ผู้หญิงเสื่อมค่า จนทำให้มองข้ามภาพโป๊ของเกย์ไป อย่างไรก็ตามความเข้าใจเกี่ยวกับภาพโป๊มิได้มาจากคำอธิบายของรักต่างเพศเพียงอย่างเดียว และการศึกษาภาพโป๊ของเกย์ก็อาจช่วยให้ขยายความรู้เกี่ยวกับความหมายของภาพโป๊ได้เช่นกัน
            สิ่งที่ทำให้ภาพโป๊แตกต่างจากการแสดงออกชนิดอื่นๆ ก็คือการปลุกเร้ากระตุ้นอารมณ์ทางเพศ      ริชาร์ด ไดเยอร์ เคยอธิบายว่าเป้าหมายของภาพโป๊ก็คือการทำให้ถึงจุดสุดยอดทางเพศ ซึ่งจะมีสองสิ่งที่เกิดขึ้นพร้อมกันคือกิจกรรมทางเพศในภาพโป๊กับกิจกรรมทางเพศที่ผู้ดูภาพโป๊ทำตามสิ่งที่เห็น  ภาพโป๊จึงอยู่ในฐานะที่เป็นสิ่งตรงข้ามกับการแสดงออกทางเพศในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งผู้สร้างและผู้ชมต่างเป็นเครื่องมือของการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศ  การแสดงภาพโป๊แบบโจ่งครึ้มนี้มีมานานแล้ว อาจย้อนกลับไปถึงยุคก่อนประวัติศาสตร์ เช่นภาพของเทพเจ้าและเทพธิดาในยุคกรีกโบราณ แต่ภาพโป๊สมัยหลังที่ปรากฏในรูปสื่อเกิดขึ้นในศตวรรษที่ 19    แม้ว่าความตั้งใจของการสร้างภาพโป๊ จะเป็นการทำเพื่อตอบสนองอารมณ์ทางเพศแบบผู้หญิงผู้ชายในวัฒนธรรมของรักต่างเพศ  แต่การนำเสนอภาพและเรื่องเล่ากามารมณ์เกี่ยวกับคนรักเพศเดียวกันก็ยังคงพบเห็นได้ในประวัติศาสตร์
            ในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา ภาพโป๊สำหรับเกย์ได้พัฒนาขึ้นและกลายเป็นแรงพลังขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมภาพโป๊และวัฒนธรรมเกย์เติบโตขึ้น  ความเข้าใจประวัติศาสตร์ภาพโป๊เกย์ในภาพยนตร์และวีดิโอคือสิ่งที่สำคัญต่อการทำความเข้าใจปรากฎการณ์วีดิโอเกย์ในปัจจุบัน  คุณภาพของภาพโป๊เกย์อาจดูได้จากวิวัฒนาการของท่วงท่าและกิริยาอาการต่างๆที่พบในภาพยนตร์โป๊สำหรับเกย์   พัฒนาการและความก้าวหน้าในการสร้างภาพโป๊ของเกย์อาจเป็นกระจกสะท้อนให้เห็นอำนาจทางการเมืองที่กดขี่เกย์ ในขณะที่เกย์ออกมาต่อสู้เรียกร้องสิทธิและทำให้สังคมยอมรับมากขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 70  แต่กลุ่มเกย์ในอุตสาหกรรมภาพโป๊ก็กำลังออกมาทำธุรกิจเช่นเดียวกัน  ในทำนองเดียวกัน การใช้ถุงยางอนามัยในภาพยนตร์เกย์เพิ่งเกิดขึ้นไม่นานมานี้ เนื่องจากสถานการณ์โรคเอดส์ในทศวรรษที่ 80   ภาพโป๊สำหรับเกย์ยังคงสะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงอุดมคติเกี่ยวกับความงามและความเป็นชายในวัฒนธรรมเกย์ด้วย  เนื่องจากกิจกรรมทางเพศที่พบเห็นในภาพโป๊สำหรับเกย์เป็นเครื่องแสดงให้เห็นพื้นฐานที่ต่างกันซึ่งสร้างอัตลักษณ์ของโฮโมเซ็กช่วล ความนิยมภาพโป๊ของชาวเกย์อาจเปรียบเสมือนการยืนยันถึงการมีอยู่ของวัฒนธรรมและชีวิตแบบเกย์
            บทความนี้ต้องการชี้ให้เห็นถึงประวัติศาสตร์ การผลิตภาพโป๊เกย์ และเนื้อหาที่เกิดขึ้นในวีดิโอโป๊ของเกย์  วีดิโอคือสิ่งที่นำมาศึกษาในที่นี้เพราะว่าเป็นสื่อของภาพโป๊ที่ได้รับความนิยมมากและหมู่เกย์  นิตยสารหลายฉบับในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาล้วนมีโฆษณาของวีดิโอ มีการนำภาพของนายแบบในวีดิโอหรือภาพฉากต่างๆในวีดิโอมาเผยแพร่  นิตยสารเช่น Skinflicks และ Unzipped นำเสนอวีดิโอโป๊อย่างเข้มข้น(มีการวิจารณ์เนื้อหาของวีดิโอ และสัมภาษณ์คนในวงการผลิตวีดิโอเกย์)  ภาพโป๊ของเกย์ในยุคปัจจุบัน จึงเป็นเรื่องราวของชีวิตที่พบได้ในชีวิตประจำวัน
            บทความนี้มีข้อมูลจากการศึกษาเอกสารงานวิจัยเกี่ยวกับภาพโป๊เกย์ และบทวิเคราะห์เกี่ยวกับการผลิตวีดิโอในทศวรรษที่ 70, 80 และ 90  นอกจากนั้น บทความนี้จะอธิบายพัฒนาและวิวัฒนาการทางประวัติศาสตร์ของวีดิโอ รวมทั้งจะตรวจสอบวัฒนธรรมที่เกิดขึ้นในวงการผลิตวีดิโอเกย์ และแยกแยะว่าอะไรคือคุณลักษณะของวีดิโอเกย์ และอะไรคือหน้าที่ของวีดิโอประเภทนี้

ประวัติศาสตร์


            เมื่อมีการประดิษฐ์ภาพยนตร์ในช่วงปลายศตวรรษที่ 19 นักถ่ายภาพโป๊ก็เริ่มมีโอกาสใช้เทคโนโลยีภาพยนตร์เป็นเครื่องมือในการสื่อสาร  ในขณะที่ภาพยนตร์ของรักต่างเพศถูกสร้างขึ้นมากในทศวรรษที่ 1890 แต่ภาพยนตร์ที่ยังหลงเหลือให้ดูได้คือเรื่องของเกย์ที่เกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1920    อัล ดี ลอร่า และเจอรัลด์ แร็บกิ้นกล่าวถึงความสัมพันธ์แบบโฮโมเซ็กช่วลในภาพยนตร์ฝรั่งเศส 2 เรื่อง คือ The Chiropodist และ Je Verbalise  งานวิจัยของโธมัส โว้ก ชี้ให้เห็นว่าภาพยนตร์ประมาณ 8 เปอร์เซ็นต์จะมีเนื้อหาแบบเกย์ โดยเสนอเรื่องราวชีวิตของไบเซ็กช่วล   ภาพยนตร์ที่พูดถึงชีวิตเกย์โดยตรงเรื่องแรกคือเรื่อง Three Comrades สร้างในช่วงทศวรรษที่ 1950  ภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นภาพยนตร์สั้นที่เล่าถึงพฤติกรรมของเพศชาย 3 ลักษณะ ซึ่งอธิบายด้วยประโยคที่ว่า เฮงซวย ฉันขยะแขยงเหลือเกิน ฉันไม่เอาด้วยประโยคนี้อาจเป็นคำพูดของเกย์และของผู้ชายทั่วไป
            ในทศวรรษที่ 1960 ภาพยนตร์ที่เกี่ยวกับเซ็กซ์ของเกย์ยังคงเป็นภาพกึ่งเปลือย หรือเป็นเรื่องของมวยปล้ำที่ผลิตออกมาเพื่อดูภายในบ้านเท่านั้น  อย่างไรก็ตาม ภาพยนตร์ที่เปิดเผยเซ็กซ์อย่างเต็มที่เริ่มเกิดขึ้นในช่วงทศวรรษที่ 1970   โธมัส โว้กศึกษาภาพยนตร์ที่มีแต่นักแสดงชายล้วน พบว่ามีประมาณ 100 เรื่อง นับตั้งแต่ทศวรรษที่ 60 เป็นต้นมา (จำนวนจะแตกต่างจากช่วงต้นที่เริ่มมีภาพยนตร์) แต่ภาพยนตร์ส่วนใหญ่สร้างมาจากมือสมัครเล่น
            ประเด็นเกี่ยวกับเกย์มิได้เป็นประเด็นที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์กระแสหลักในช่วงทศวรรษที่ 60  ผู้ชมที่เป็นชายหญิงจะโจมตีภาพยนตร์ของเดวิด ไฟรด์แมนซึ่งเสนอภาพนู้ด ในขณะที่ผู้ชมที่เป็นเกย์จะมีโอกาสดูภาพยนตร์นอกกระแส หรือหนังใต้ดิน   ผู้สร้างหนังใต้ดินที่สำคัญในยุค 1960 มาจากนิวยอร์ค และส่วนใหญ่เป็นเกย์ เช่นเคนเน็ธ แองเกอร์ และแอนดี้ วอร์โฮล   หนังของผู้สร้างเหล่านี้ถูกจัดให้อยู่ในประเภท Avant-gard และมีเนื้อเรื่องที่เกี่ยวกับโฮโมเซ็กช่วล   ภาพยนตร์ของแองเกอร์เรื่อง Scorpio Rising(1963) เหมือนกับหนังในจินตนาการ  เป็นเรื่องราวของแก๊งมอเตอร์ไซค์ที่มีพฤติกรรมแบบโฮโมเซ็กช่วล  ภาพยนตร์ของวอร์โฮลเรื่อง My Hustler (1965) เป็นเรื่องเกี่ยวกับเกย์สาว 2 คนที่ต่อสู้โสเภณีชายรูปงามคนหนึ่ง  สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์สองเรื่องนี้เป็นที่สนใจของผู้ชมเกย์ก็คือการเปิดเผยให้เห็นเรือนร่างที่เย้ายวนของเพศชายโดยอาศัยศิลปะการนำเสนอแบบบ Avant-gard (โดยเฉพาะผู้ชมที่ยังไม่เปิดเผยว่าตนเองเป็นเกย์)   ริชาร์ด ไดเยอร์กล่าวว่า ภาพยนตร์ใต้ดินมักจะเป็นแม่แบบที่สำคัญของการเกิดภาพโป๊สำหรับเกย์ในยุค 70
            การเปลี่ยนแปลงในเรื่องกฎหมายมีผลทำให้วงการภาพโป๊สำหรับเกย์ขยายตัวมากขึ้น  จอห์น ดีเอมิลิโอ และ เอสเทลล์ ฟรีดแมน อธิบายให้เห็นถึงการออกกฎหมายของศาลสูงในสหรัฐในช่วงปี ค..1957-1967 ซึ่งมีผลให้เกิดการสร้างภาพยนตร์ที่เปิดเผยเซ็กซ์ได้  กรณีพิพาทในปี ค..1957 หรือคดีของร็อธกับรัฐบาลอเมริกัน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการทำผิดของผู้จำหน่ายหนังสือโป๊ กรณีนี้นำไปสู่การถกเถียงเรื่อง สิ่งลามกเลวทรามกับ เซ็กซ์ซึ่งมีความหมายต่างกัน   ในปี ค..1967 หนังสือชื่อ Fanny Hill ถูกกฎหมายตัดสินว่าไม่ใช่หนังสือลามก เนื่องจากมิได้ทำให้สังคมเสื่อมทราม  ถึงแม้ว่ากรณีพิพาทดังกล่าวนี้จะเป็นการเปิดพรมแดนเรื่องภาพโป๊  แต่ภาพยนตร์เซ็กซ์ที่เติบโตมากในช่วงต้นทศวรรษที่ 70 กลับได้รับการยอมรับจากศาล โดยมีภาพยนตร์จากสวีเดนเรื่อง I Am Curious(Yellow) ในปี ค..1969 เป็นผู้นำในแนวทางอีโรติก ซึ่งต่อมาเกิดเทศกาลหนังอีโรติกหลายครั้ง  แนวอีโรติกหรือยั่วกามารมณ์กลายเป็นแนวที่ได้รับความนิยมในสื่อท้องตลาด โดยเฉพาะผู้สร้างภาพยนตร์ในฮอลลีวู้ดได้นำแนวอีโรติกไปใช้ เช่นเรื่อง Midnight Cowboy เป็นเรื่องราวชีวิตของโสเภณีชาย  ในขณะที่ฮอลลีวู้ดกำลังก้าวไปสู่ประเด็นเรื่องเพศแบบใหม่ แต่อุตสาหกรรมภาพยนตร์เซ็กซ์กลับเปลี่ยนแนวทางตัวเองไปสู่การเปิดเผยเรื่องเพศแบบไม่ปิดบัง  โว้กอธิบายว่าการสร้างหนังโป๊มีความก้าวหน้าและมีคุณภาพมากขึ้น ซึ่งมาจากสภาพแวดล้อมและกฎหมายที่เอื้ออำนวยในช่วงปี ค..1969-1970 ทำให้เกิดอาชีพต่างๆในวงการหนังโป๊ตามมา และภาพยนตร์โป๊ถูกสร้างและเผยแพร่ออกไปมากมาย
            จอห์น เบอร์เกอร์ ศึกษาการแสดงออกทางเพศแบบเปิดเผยเชิงพาณิชย์ในหนังโป๊ของเกย์ ซึ่งสามารถย้อนกลับไปถึงปี ค..1968  โรงภาพยนตร์ปาร์คเธียเตอร์ในเมืองลอสแอนเจลีส จัดฉายหนังของแพท ร็อคโคเรื่อง Sex and the Single และหนังของบ๊อบ ไมเซอร์ (ผู้ก่อตั้งบริษัท Athletic Model Guild porn production company) รวมทั้งฉายหนังใต้ดินแนว Avant-gard ของเคนเน็ธ แองเกอร์ และยีน ค็อคโต  อย่างไรก็ตาม ยุคทองของหนังโป๊จะอยู่ในช่วงต้นทศวรรษที่ 70 ภาพยนตร์ที่ได้รับความนิยมมากคือเรื่อง Deep Throat  หนังเรื่องนี้สร้างเสร็จภายใน 6 วัน ด้วยงบประมาณ 24,000 ดอลล่าส์ เปิดฉายครั้งแรกในนิวยอร์คในเดือนมิถุนายน ปี ค..1972 และเก็บรายได้ในอาทิตย์แรกสูงถึง 33,033 ดอลล่าส์  สิ่งที่ทำให้หนังเรื่อง Deep Throat ต่างไปจากหนังโป๊ยุคแรกๆก็คือมีนักวิจารณ์ที่มีชื่อหลายคนได้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นจูดิธ คริสต์, วินเซ็นต์ แคนบี้ ,แอนดรูว์ ซาร์ริส และคนอื่นๆ  ในช่วงปลายปี ค..1973 หนังเรื่อง Deep Throat ก็กลายเป็นหนังที่มีรายได้ดีในสิบอันดับแรกของปี
            เมื่อหนังโป๊เริ่มเปิดเผยมากขึ้น และหนังเรื่อง Deep Throat กลายเป็นตัวแทนของกามารมณ์  ศาลในช่วงทศวรรษที่ 1970 อนุญาตให้รัฐบาลท้องถิ่นมีกฎหมายของตัวเองเพื่อควบคุมการเผยแพร่สื่อลามก ซึ่งทำให้หนังโป๊ถึงจุดเสื่อม  การสร้างภาพยนตร์เรตเอ็กซ์ของฮอลลี้วู้ดในยุค 60 ไม่ได้รับความนิยมจากประชาชน แต่ได้รับความสนใจจากนักสร้างหนังโป๊แนวใหม่ อุตสาหกรรมหนังโป๊เริ่มผลิตหนังที่ตีตรา “XXX” ซึ่งหมายถึงภาพยนตร์แนวโป๊เปลือย
            ภาพยนตร์ Deep Throat เปรียบเสมือนเป็นปรากฏการณ์ของกามารมณ์ที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย ซึ่งจริงๆแล้วภาพยนตร์เรื่องนี้ได้แรงบันดาลใจมาจากหนังโป๊ของเกย์ยุคแรก นั่นคือเรื่อง The Boys in the Sand  ถึงแม้ว่าหนังเรื่องนี้จะมีคนดูน้อยกว่า แต่เมื่อออกฉายในเดือนธันวาคม ปี ค..1971 ที่โรงภาพยนตร์บนถนนสาย 55 ในนิวยอร์ค รับรายได้ไปประมาณ 8 แสนดอลล่าส์  ภาพยนตร์เรื่องนี้คือหนังเกย์ที่ทำให้เกิดหนังโป๊สำหรับชายหญิงตามมา  The Boys in the Sand เป็นผลงานกำกับของเวคฟีลด์ พูล  ดาราในหนังเรื่องนี้คือ เคซีย์ โดโนแวน หรือรู้จักในนาม คัล คูลเวอร์ ซึ่งกลายเป็นดาราเกย์ที่มีชื่อในเวลาต่อมา  The Boys in the Sand คือภาพยนตร์ที่เกย์รอคอยและฉีกแนวไปจากหนังเกย์ใต้ดินในยุค 60
            The Boys in the Sand ชี้ให้เห็นศักยภาพเชิงการตลาดของหนังโป๊เกย์  หนังเรื่องต่อมาของพูลคือเรื่อง Bijou(1972) เป็นเรื่องราวของผู้ชายคนหนึ่งที่ค้นพบว่าตนเองเป็นเกย์  ภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้เทคนิคทางภาพยนตร์หลายอย่างและเป็นการผสมผสานเทคนิคแบบหนังใต้ดินเข้ากับแนวหนังโป๊เกย์ยุคแรกๆ  การผลิตหนังโป๊เกย์ขยายตัวมากในยุค 70 มีบริษัทผลิตหนังเกิดขึ้นหลายแห่ง เช่น บริษัทจากัวร์ และพีเอ็มโปรดักชั่น ซึ่งเป็นบริษัทที่ผลิตหนังโป๊แนวฮาร์ดคอร์และส่งฉายตามโรงหนังเกย์ เมื่ออุตสาหกรรมหนังโป๊ขยายตัวขึ้น และซับซ้อนขึ้น หนังโป๊ก็กลายเป็นธุรกิจมากขึ้น  หนังโป๊เกย์ก็สูญเสียแรงบันดาลใจ และความเป็นหนังศิลปะเหมือนยุคแรกๆ  จนกระทั่งหนังโป๊เกย์ไม่ต่างจากหนังโป๊ของชายหญิง ซึ่งเสนอแต่ภาพโปีเปลือยอย่างไร้รสนิยมและความหมาย
            ในปี ค..1981 มีร้านหนังสือโป๊เกิดขึ้นประมาณ 20,000 แห่ง และโรงหนังโป๊ประมาณ 800 แห่งในสหรัฐ  อย่างไรก็ตาม ในยุค 80 ซึ่งเทคโนโลยีก้าวหน้าขึ้นทำให้ผู้ชมสามารถซื้อวีดีโอมาชมที่บ้านได้ หนังโป๊จึงแพร่หลาย  เมื่อถึงทศวรรษที่ 1980 เครื่องเล่นวีดีโอมีราคาถูกลงมากทำให้ผู้ชมหันมาดูวีดีโอมากกว่าชมภาพยนตร์ในโรงหนัง  ผู้สร้างหนังจึงผลิตวีดีโอเพื่อป้อนตลาดที่เป็นผู้ชมในบ้าน ซึ่งทำให้เกิดลูกค้าจำนวนมหาศาล
            หนังโป๊เกย์กลายเป็นวีดีโอในทศวรรษที่ 80  วีดีโอเกย์รุ่นแรกๆจึงมาจากภาพยนตร์สั้นสำหรับเกย์ หรือสารคดีแนวฮาร์ดคอร์  บริษัทฟัลคอนวีดีโอแพ็คส์นำหนังสั้นในยุค 70-80 มาผลิตวีดีโอจำหน่าย  หนังในยุคต้น 70 เป็นหนังของมือสมัครเล่นที่ใช้งบประมาณน้อย ส่วนหนังในยุค 80 เป็นผลงานของนักสร้างและนักลงทุนมืออาชีพและใช้งบประมาณมาก ซึ่งทุนผลิตหนังโป๊สำหรับชายหญิงด้วยแต่สนใจที่จะมาทำหนังโป๊สำหรับเกย์ด้วย  บริษัทผลิตหนังโป๊เกย์ เช่น บริษัทวิวิด หรือ ฮีส เป็นบริษัทในเครือของนักลงทุนที่สร้างหนังโป๊ชายหญิง  ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1980 การสร้างหนังเพื่อเป็นวีดีโดยตรงเป็นสิ่งที่ทำกันอย่างแพร่หลาย และในช่วงเดียวกันนี้โรงหนังโป๊เกย์ก็ค่อยๆปิดตัวเองไป (รวมทั้งโรงหนังโป๊ชายหญิงด้วย)
            ภาพยนตร์โป๊สำหรับเกย์ในยุคบุกเบิกในช่วงทศวรรษที่ 1970 มักจะนายแบบใครก็ได้ที่พร้อมจะเล่น  ตัวอย่างเช่น หนังจากค่ายพีเอ็มโปรดักชั่น นำดาราหล่อสองคนมาแสดง (อีริค ไรอัน และแจ็ค แรงเลอร์) ซึ่งทั้งคู่ดูเหมือนคนธรรมดาทั่วไป    แต่ต่อมาในทศวรรษที่ 80  บริษัทหนังโป๊ เช่น โคลท์ได้ผลิตหนังเงียบขนาดสั้นโดยใช้นายแบบหล่อและมีกล้ามเป็นมัดๆมาแสดง แต่ผู้สร้างหนังโป๊ในยุค 80 มักจะไม่ชอบนายแบบที่ดูเหมือนคนธรรมดาตามท้องถนน  เพราะเมื่อต้องแสดงฉากร่วมรัก นักแสดงต้องมีเรือนร่างที่สวยงามเพื่อดึงดูดลูกค้าที่เป็นเกย์
            วีดิโอเกย์ในทศวรรษที่ 1980 มีนักแสดงที่เป็นหนุ่มๆ รูปร่างเพรียวและอ่อนหวาน ซึ่งเป็นภาพลักษณ์ที่ตรงข้ามกับดาราชายในทศวรรษที่ 1970 และต่างไปจากนักเพาะกาย  ดาราหนังโป๊ในยุค 80 มีผิวที่เนียนเรียบไม่มีขน มีรูปร่างเหมือนนักกีฬาว่ายน้ำ  และอายุของดาราส่วนใหญ่จะไม่เกิน 22-23 ปี  ความเป็นหนุ่มจึงสิ่งที่ใช้หาเงินได้  ผู้กำกับอย่างวิลเลียมส์ ฮิกกิ้นส์ และแม็ตต์ สเตอร์ลิ่ง คือผู้ที่สร้างมาตรฐานใหม่ให้กับดาราหนังโป๊ของเกย์ในทศวรรษที่ 1980  ผลงานของฮิกกิ้นส์ เช่น Sialor in the Wild ในปี ค..1983 จนถึงเรื่อง Big Guns ในปี ค..1987 คือตัวอย่างหนังโป๊เกย์ที่แตกต่างจากยุค 70  หนังของฮิกกิ้นส์จะใช้ดาราหนุ่มที่มีรูปร่างสมส่วน มีกล้ามพองาม ผิวเนียน ไม่มีขน และเป็นนักแสดงอาชีพ  ผลงานของแม็ตต์ สเตอร์ลิ่ง เช่น เรื่อง The Bigger the Better ในปี ค..1984 ใช้นักแสดงที่มีหน้าตาอ่อนเยาว์ แต่จะมีมัดกล้าม  การใช้ดาราที่หนุ่มๆยังพบในสิ่งพิมพ์ที่โป๊เปลือย  จากการศึกษาของเดวิด ดันแคน พบว่าในช่วงทศวรรษที่ 1980 มีประมาณ 90 เปอร์เซ็นต์ที่ดาราหนังโป๊จะมีอายุประมาณ 20 ปี ส่วนในทศวรรษที่ 1970  ภาพนายแบบครึ่งหนึ่งจะมีอายุประมาณ 30 ปีขึ้นไป
            วีดิโอโป๊ในยุค 1980 จะมีการแยกประเภทดาราเป็นสองพวก คือ พวกที่เล่นบทบาทเป็น ฝ่ายรุกและพวกที่แสดงบทบาทเป็น ฝ่ายรับ   ดาราที่แสดงเป็นฝ่ายรุก คือผู้ที่สอดใส่องคชาติเข้าทวารหนักผู้ที่เป็นฝ่ายรับ  ดาราที่เป็นฝ่ายรุกจะไม่ค่อยใช้ปากอมอวัยวะเพศของฝ่ายรับเท่าใดนัก  แต่ก็มีข้อยกเว้น  หนังของจอห์น ซัมเมอรืเรื่อง Two Handfuls   คือตัวอย่างที่นักแสดงคนหนึ่งชื่อไบรอัน แม็กซันให้บริการทางเพศกับชาย 3 คน ฉากสุดท้ายของหนังแม็กซันจะใช้มือสำเร็จความใคร่ให้ตัวเอง ผู้ชมสามารถเดาได้ว่าดาราคนไหนจะสวมบทบาทอะไร  ผู้ที่เป็นฝ่ายรุกมักจะมีกล้าม ผิวสีน้ำตาล และมีหุ่นเหมือนนักกีฬา นอกจากนั้นยังมีองคชาติใหญ่กว่าฝ่ายรับ  ดาราที่เป็นฝ่ายรุกจะมีสถานะพิเศษในวงการ  ดาราหนังโป๊ที่โด่งดังในยุค 1980 จึงมักจะเป็นฝ่ายรุก
            บางคนอาจสงสัยว่าสื่อที่เป็นหนังโป๊ คือสิ่งที่เยาะเย้ยข้อห้ามทางสังคมที่มีต่อเรื่องเพศ ซึ่งหนังโป๊อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับข้อห้ามนี้เลยก็ได้  หากแต่หนังโป๊ของเกย์และชายหญิงไม่มีกฎตายตัว  บทบาททางเพศในหนังโป๊ (เช่น ฝ่ายรุก ฝ่ายรับ ซึ่งนิยามจากลักษณะทางกายภาพ) เป็นเพียงส่วนหนึ่งของธรรมเนียมของการสร้างหนังโป๊  ฉากการ ถึงจุดสุดยอดคือฉากที่สำคัญอีกฉากหนึ่ง  กฎของการสร้างหนังโป๊อาจเป็นเรื่องของ การที่ดาราชายจะต้องหลั่งน้ำอสุจิออกมาต่อหน้ากล้อง  ต้องทำให้เห็นการแข็งตัวของอวัยวะเพศ และต้องลูบไล้เรือนร่างของคู่ขา  กฎอีกข้อหนึ่งอาจเป็น บุคคลที่สามที่มองเห็นการร่วมรักของคนสองคนจะต้องถอดเสื้อผ้า และเข้ามามีเซ็กซ์กับคนทั้งคู่

หนังโป๊ของเกย์ในยุคร่วมสมัย
























            ถึงแม้ว่าในต้นทศวรรษที่ 1990 หนังโป๊จะมีรูปแบบลีลาการนำเสนอที่หลากหลาย แต่วงการหนังโป๊ก็มีการเปลี่ยนแปลงไปมาก นักแสดงหนังโป๊ไม่จำเป็นต้องมีมาตรฐานเดียวกัน เช่น นายแบบโฆษณากางเกงชั้นในของคัลวิน ไคล์น อาจไม่ใช่นายแบบที่เป็นมาตรฐานความงามสำหรับเกย์  นอกจากนั้นคุณภาพของการผลิตหนังโป๊ก็พัฒนาไปจากเดิม โดยเฉพาะเทคนิคการตัดต่อ  ตัวอย่างเช่น  หนังที่ผลิตจากบริษัทที่มีชื่อเสียง จะไม่ทำให้ผู้ชมต้องนั่งดูฉากร่วมรักทางทวารหนักนานเกิน 6 นาที  ระบบแสงในหนังมีความซับซ้อนขึ้น โดยเฉพาะหนังโป๊ของชายหญิง มีการเลือกทำเลถ่ายทำที่แปลกขึ้นและแพงขึ้น เช่น ฉากหมู่เกาะฮาวายในหนังเรื่อง The Man With the Golden Rod ในปี ค..1991

            การพัฒนาอาชีพในวงการหนังโป๊ เกิดขึ้นตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 นำโดยนักแสดงคริสเต็น บายอร์น  หนังของบายอร์นมีลักษณะพิเศษ และมีเอกลักษณืเฉพาะตัว  เขาถ่ายหนังด้วยตัวเขาเองโดยไม่มีผู้ช่วย และใช้เวลาถ่ายหนังนาน 1-2 สัปดาห์เท่านั้น (หนังโป๊ส่วนใหญ่จะใช้เวลาถ่ายทำประมาณ 2 วัน)  ระยะเวลาถ่ายทำที่นานขึ้น ทำให้บายอร์นสามารถสร้างจินตนาการ โดยทำให้นักแสดงมีการหลั่งหลายครั้ง ในฉากหนึ่งอาจมีการหลั่งถึง 5 ครั้ง  นอกจากนั้น บายอร์นยังได้ฉายาว่าเป็นเจ้าพ่อของการสร้างฉาก น้ำแตกที่ไม่ต้องอาศัยมือ โดยการถ่ายให้เห็นนักแสดงกำลังหลั่งน้ำอสุจิ ราวกับว่านักแสดงคนนั้นกำลังมีความสุขจากการร่วมรัก โดยไม่มีการใช้มือช่วย หรือไม่มีใครเข้าไปกระตุ้นระหว่างถึงจุดสุดยอดเลย  หนังของบายอร์นแต่ละเรื่องจะใช้ฉากที่แปลกตาและมีนายแบบที่มีเอกลักษณ์พิเศษ  หนังยุคแรกๆของบายอร์น เช่น Carnaval in Rio (1989) และ Island Fever(1989) ถ่ายทำในประเทศบราซิล หนังเรื่องต่อมาถ่ายทำที่ชายหาดในประเทศออสเตรเลีย  ในป่าของแคนาดา และเมืองต่างๆในเขตยุโรปตะวันออก   โดยปกติ สิ่งที่พบเห็นบ่อยในหนังเกย์ก็คือการแบ่งแยกประเภทหนังตามสีผิว คือ ประเภทผิวดำ กับประเภทผิวขาว  แต่บายอร์นทำลายกฎข้อนี้โดยใช้นักแสดงที่มีเชื้อชาติที่หลากหลาย โดยเฉพาะใช้นักแสดงที่เป็นเลือดผสม  ความสำเร็จหนังของบายอร์นพิสูจน์ให้เห็นว่ายังมีตลาดรองรับหนังโป๊เกย์ที่มีนักแสดงหลากหลายเชื้อชาติ
            การผลิตหนังที่มีคุณภาพสูงของบายอร์น ทำให้หนังโป๊แนวเดิมๆตกยุค ขณะเดียวกันก็สร้างมาตรฐานใหม่ของหนังโป๊ขึ้นมา  เนื่องจากบายอร์นเคยเป็นช่างภาพมาก่อน จึงทำให้เขาพิถีพิถันในการถ่ายหนังแต่ละฉาก โดยเฉพาะสร้างอุปกรณ์ประกอบฉากขึ้นมาโดยเฉพาะ  บายอร์นจะเลือกทำเลและพื้นที่พิเศษเป็นฉากในหนัง  ผลงานของบาบอร์นจึงมีความสดใหม่และได้รับความนิยมจากผู้ชมที่เข้าไปเช่าวีดิโอในร้านค้า  หนังของบายอร์นจึงเป็นผลงานที่มีคุณภาพโดยเฉพาะเรื่องการตัดต่อและการถ่ายภาพ ซึ่งเป็นแรงขับดันให้ผู้สร้างหนังรายอื่นๆพยายามลุกขึ้นมาแข่งขัน  แต่ก็ยังมีการสร้างหนังโป๊คุณภาพต่ำออกมาหลายเรื่อง  ในขณะที่บริษัทผลิตหนังโป๊แนวหน้าหลายแห่งพยายามใช้งบประมาณมากขึ้นเพื่อลงทุนด้านแสง การถ่ายภาพ และการคัดเลือกนักแสดง






















            ในช่วงทศวรรษที่ 1990 การเปลี่ยนแปลงที่ไม่คาดคิดในวงการหนังโป๊ก็คือการคัดเลือกนักแสดง บริษัทผลิตหนังโป๊ชั้นแนวหน้าส่วนใหญ่ (เช่น บริษัทแคทาลีน่า และ ฟอลคอล) จะใช้นักแสดงมืออาชีพซึ่งพอใจกับการทำงานของตัวเอง  เมื่อเทียบกับนักแสดงในยุค 1980 นักแสดงหนังโป๊ในยุค 1990 จะมีความแตกต่างกันทั้งในเรื่องอายุและรูปร่าง  ถึงแม้ว่าจะพบเห็นนักแสดงหนุ่มๆหลายคนในหนังโป๊ แต่นักแสดงหลายคนอาจมีอายุมากกว่า 30 ปี หรือถึง 40 ปี เช่น นักแสดงชื่อโคล ทักเกอร์ อายุ 43 ปี เริ่มแสดงหนังในปี ค..1996 ขนตามร่างกายของนักแสดงก็มีส่วนทำให้ประสบความสำเร็จในอาชีพ เช่น แซค สเพียร์ และ สตีพ รีจิส

            ในทศวรรษที่ 1990  นักแสดงหลายคนมักจะแสดงบทรักได้ทั้งรุกและรับ ซึ่งต่างไปจากแบบแผนในยุค 1980  นักแสดงชื่อดังในทศวรรษที่ 1980 มักจะแสดงได้แต่บทรุกเท่านั้น  เช่น เจฟฟ์ สไตรเกอร์ ไม่เคยแสดงบทรับเลย และอาจไม่แสดงบทที่ต้องใช้ปากทำรักด้วย  นักแสดงหนังโป๊ส่วนใหญ่ในยุคนี้จึงมักแสดงบทบาทเดิมๆ และในฉากเดียวกันก็จะเล่นบทบาทเหมือนกัน  อย่างไรก็ตาม ในปลายทศวรรษที่ 1990 หนังโป๊หลายเรื่องจากบริษัทฟอลคอล (บริษัทที่ผลิตหนังโป๊เกย์ที่ใหญ่ที่สุด) มักจะสร้างฉากอย่างน้อยหนึ่งฉากเพื่อแสดงการร่วมรักทางทวารหนักแบบหลายคน เช่นเรื่อง Current Affairs ของบริษัทฟอลคอลในปี ค..1998
            ในทศวรรษที่ 1990 มักจะไม่เห็นหนังโป๊ที่นำเสนอ รูปร่างทางเพศแบบตายตัว  ร่างกายใหญ่โตแบบสตีพ รีจิส อาจแสดงเป็นฝ่ายรับ  รูปร่างแบบนักกล้ามของสตีพ ฟ็อกซ์ก็อาจเป็นนักแสดงฝ่ายรับได้เช่นกัน ความเชื่อของยุค 1980 ที่ว่าร่างกายที่ใหญ่โตต้องเป็นฝ่ายรุกจึงอาจใช้ไม่ได้  เพราะแม้แต่นักแสดงที่ดูเป็นชายปกติที่แสดงบทบาทเป็นฝ่ายรุกก็อาจใช้ปากอมอวัยวะเพศให้กับคู่ขาก่อนที่จะสอดใส่องคชาติให้กับฝ่ายตรงข้าม (เช่น ไท ฟ็อกซ์ และ เคน ไรเกอร์)  ในหนังเรื่อง Playing with Fire (1996) ฟ็อกซ์แสดงบทบาทหลายอย่าง ยกเว้นการเป็นฝ่ายรับ เช่นเดียวกับการแสดงของไรเกอร์ ในหนังเรื่อง Matinee Idol (1996)  นักแสดงที่สวมบทบาทฝ่ายรุกในยุค 1990 มักจะเกย์ ซึ่งแตกต่างไปจากการเป็นนักแสดงที่สวมบทบาท เกย์เช่น แบรด ฮันต์ และไอแดน ชอว์  นักแสดงทั้งสองคนนี้จะไม่ยอมแสดงบทรับต่อหน้ากล้อง ยกเว้นการเล้าโลม การจูบ และ การสอดใส่ทวารหนัก  นอกจากชอว์จะแสดงหนังโป๊แล้ว เขายังเป็นนักเขียนและขายตัวเองในคราบของเกย์
            สิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ในทศวรรษที่ 1990 อีกอย่างหนึ่งคือ การกอดจูบลูบรัดโอ้โลม  นักแสดงในยุค 1980 จะไม่สนใจการจูบหรือการพลอดรัก แต่จะแสดงการร่วมเพศทันทีที่เข้าฉาก    แต่นักแสดงในยุค 1990 มักนิยมการกอดจูบก่อนที่จะมีการถอดเสื้อผ้า และการจูบก็ยังดำเนินต่อไปตลอดที่มีการร่วมรัก  ทั้งบริษัทฟอลคอลและคริสเตน บายอร์นจะให้ความสำคัญกับเรื่องกอดจูบมาก  เนื่องจากการจูบของนักแสดงที่ยาวนานทำให้หนังโป๊เกย์ต่างไปจากหนังโป๊ชายหญิง เพราะหนังดป๊ชายหญิงจะไม่มีฉากโรแมนติก  นักแสดงในหนังโป๊เกย์ในยุค 1990 จะสนใจเรือนร่างของคู่ขามากกว่าในอดีต  ฉากที่สตีพ รีจิสและเอซ ฮาร์เดนแสดงในหนังเรื่อง Club Sexaholics(1996) คือฉากที่แสดงให้เห็นการจูบและลูบไล้ร่างกายก่อนที่จะมีการร่วมรัก













            มาตรฐานการมีเซ็กซ์แบบปลอดภัยเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นใหม่ในวงการหนังโป๊ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1980 เป็นต้นมา  ในปี ค..1988 เริ่มมีการใช้ถุงยางอนามัยในหนังโป๊ แต่ไม่ค่อยเห็นบ่อยนัก  อย่างไรก็ตาม เมื่อมีการเคลื่อนไหวรณรงค์เรื่องการป้องกันโรคเอดส์ในทศวรรษที่ 1980  เรื่อยมาจนถึงต้นยุค 1990 นักแสดงหนังโป๊ส่วนใหญ่จึงหันมาสวมถุงยางอนามัยในการร่วมรักทางทวารหนัก (ไม่สวมถุงยางในฉากที่ใช้ปากอมอวัยวะเพศ)  ในประเด็นนี้ ทำให้อุตสาหกรรมหนังโป๊เกย์ก้าวหน้าไปมากกว่าหนังโป๊ของชายหญิง   แต่ในปี ค..1998 หนังโป๊ชายหญิงก็หันมาใช้ถุงยางอนามัย ซึ่งเดิมนักแสดงต้องไปตรวจหาเชื้อเอชไอวีเป็นระยะๆ ต่อมาการใช้ถุงยางในหนังโป๊ชายหญิงก็เพื่อป้องกันการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ของนักแสดงบางคน

            เรื่องราว และการแสดงมิใช่สิ่งสำคัญของหนังโป๊  อย่างไรก็ตาม เมื่อมาตรฐานการผลิตมีสูงขึ้น (เหตุผลอาจมาจากการที่ประชาชนหันมานิยมดูวีดิโอมากขึ้น ทำให้คนต้องการดูวีดิโอที่มีคุณภาพมากขึ้น) ตัวอย่างเช่น หนังเรื่อง The Other Side of Aspen 3 (1995) เต็มไปด้วยฉากที่แปลกใหม่ที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในหนังโป๊เกย์ กล่าวคือ มีนักแสดงกำลังร่วมรักในรถยนต์ซึ่งมีบรรยากาศมืดสลัว โดยกล้องจะจับภาพนักแสดงแบบใกล้ชิดมาก  ในฉากนี้เป็นการผสมผสานระหว่างเหตุการณ์ร่วมรักที่เผ็ดร้อนในความมืดที่พ้นที่แคบๆ กับเทคนิคการถ่ายภาพที่ทำให้เกิดจินตนาการ
            ในยุค 1990 บริษัทหนังโป๊พยายามทดลองแนวทางใหม่ๆ  เรื่อง Bad Boys’ Ball (1995) เป็นหนังสารคดีที่มีการกำกับที่ดี โดยมีฉากการสัมภาษณ์นักแสดง พร้อมกับฉากที่นักแสดงคนนั้นกำลังเต้นในบาร์ประเภทปลุกเร้าอารมณ์ทางเพศในลอนดอน  เรื่อง Master Strokes(1996) ประกอบด้วยเรื่องย่อยๆหลายเรื่องของผู้กำกับหลายคน (รวมทั้งบายอร์นด้วย) เรื่องนี้สร้างมาจากแรงบันดาลใจเกี่ยวกับหนังโป๊เกย์ในยุค 1950-1960  คำถามคือ อะไรคือสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงในเรื่องเนื้อหาและรูปแบบของหนังโป๊เกย์ในยุคปัจจุบัน  สำหรับในกรณีนี้อาจมองได้ว่าศิลปะคือสิ่งจำลองชีวิตจริง กล่าวคือ การเปลี่ยนแปลงที่พบในหนังโป๊สะท้อนให้เห็นการเปลี่ยนแปลงเรื่องการแสดงตัวตนของเกย์  เมื่อวิกฤตการณ์โรคเอดส์เกิดขึ้นมาพร้อมกับการก่อเกิดวัฒนธรรมเกย์  และกระบวนการแสวงหาความเป็นเพศที่แปลกแยก หรือ เควียร์มาพร้อมกับจิตสำนึกเรื่องความแตกต่างหลากหลาย    กลุ่มเควียร์เนชั่นที่เกิดขึ้นมาตั้งแต่ต้นยุค 1980 คือกลุ่มที่มีลักษณะของตัวเองแตกต่างไปจากสังคมเกย์ทั่วไป  การเพิ่มพูนของจิตสำนึกเรื่องความหลากหลายจึงกลายเป็นสิ่งที่สะท้อนให้เห็นสิ่งใหม่ๆที่มีอยู่ในหนังโป๊เกย์ยุค 1990 ไม่ว่าจะเป็นอายุ เชื้อชาติเผ่าพันธุ์ และขนาดรูปร่างและสัดส่วนของนักแสดง
            ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 และ 1990 มีแนวคิดใหม่ๆในการศึกษาเรื่องการแสดงตัวตนทางเพศ ไม่ว่าจะเป็นแนวคิดของจูดิธ บัตเลอร์ ไปจนถึงแนวคิดของคามิลล์ แพกเลีย   ความคิดของแพกเลียอธิบายว่าเพศถูกสร้างมาจากวัฒนธรรมตะวันตกซึ่งได้รับการเผยแพร่ผ่านสื่อแขนงต่างๆ  ซูซี ไบรต์ นักเขียนชื่อดังเคยเขียนบทความต่อต้านการกดขี่ทางเพศผ่านสื่อ             บทความและหนังสือของซูซีได้ยกย่องความสุขจากการดูหนังโป๊ การใช้อุปกรณ์เพื่อมีเซ็กซ์ และเย้ยหยันล้อเลียนตัวแบบทางเพศที่ตายตัว  แพท คัลลิเฟียเขียนคอลัมน์เพื่อตอบปัญหาทางเพศให้กับกลุ่มเกย์ในอเมริกาในเรื่องเกี่ยวกับเทคนิคและการสร้างอารมณ์ความรู้สึกทางเพศ นักเขียนที่มีชื่อเหล่านี้เป็นส่วนหนึ่งของบรรยากาศที่มีเสรีภาพในเรื่องเพศแนวใหม่ซึ่งให้คุณค่ากับความหลากหลายทางเพศ การเปิดใจกว้าง และการแสวงหาความพึงพอใจในเพศรส ทัศนคติใหม่เหล่านี้สะท้อนออกมาในวีดิโอโปของเกย์ซึ่งมีเนื้อหาที่แปลกใหม่

อุตสาหกรรมหนังโป๊เกย์ในปัจจุบัน
























            ความนิยมวีดิโอโป๊ในยุค 1990 ที่แพร่หลายอย่างกว้างขวาง (ในแต่ละเดือนจะมีการผลิตวีดิโอประมาณ 50-70 เรื่อง) ยังรวมถึงวัฒนธรรมย่อยๆของนักแสดงนักโป๊และกลุ่มคนที่คลั่งไคล้ดาราที่ซับซ้อนและเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา เช่น ผู้กำกับที่มีชื่อเสียงอย่างชี ชี ลารู ซึ่งนิยมแต่งหญิง และผู้กำกับจากบริษัทฟอลคอลชื่อจอห์น รูเธอร์ฟอร์ด (จบการศึกษาทางด้านการสร้างภาพยนตร์) นักวิจารณ์ที่มีอิทธิพล เช่น มิกกี้ สกี ผู้ซึ่งนิยมเขียนหนังสือตีแผ่วงการหนังโป๊ รวมถึงเขียนวิจารณ์หนังโป๊จำนวนมาก   นิตยสารและเว็บไซต์เกี่ยวกับหนังโป๊  รวมถึงกลุ่มนักแสดงที่มีชื่อซึ่งจะไปปรากฏตัวแสดงโชว์ในบาร์เกย์เพื่อแลกกับค่าตัวจำนวนมาก นักแสดงบางคนอาจรับบริการทางเพศผ่านการสั่งทางโทรศัพท์ด้วย (คำว่าผู้ชายทางโทรศัพท์เป็นคำเรียกเชิงสุภาพสำหรับโสเภณีชาย)

            ท่ามกลางผู้กำกับหนังโป๊หลายคนในยุค 1990  ชี ชี ลารู (มีรูปร่างหน้าตาคล้ายดีไวน์) คือผู้กำกับที่เคยทำงานให้กับสตูดิโอใหญ่ๆหลายแห่ง   ลารูเป็นแดร็กควีนหรือเกย์แต่งหญิงที่มาจากรัฐมินนเนโซตา เขาปรากฏตัวในหนังโป๊ครั้งแรกในช่วงปลายยุค 1980 และโด่งดังในเวลาต่อมาพร้อมกับผลงานจำนวนมาก  ลารูแต่งตัวเป็นแดร็กควีนเพื่อออกงานสาธารณะ พร้อมกับเพื่อนพ้องนักแสดง  เขาเป็นผู้ที่มีอิทธิพลในฐานะเป็นผู้กำกับที่ทำงานให้กับบริษัทที่สร้างหนังโป๊เกย์ชั้นแนวหน้าหลายแห่ง  ในขณะที่ผลงานของลารูได้รับการยกย่อง แต่สิ่งที่เขาทำได้ดีที่สุดก็คือการทำหนังโป๊เกย์แบบโจ่งครึ้ม  การแต่งตัวเป็นหญิงของลารูทำให้เขาได้แสดงความรู้ความสามารถซึ่งได้รับความชื่นชมในสังคมของดาราเกย์  ลารูกล่าวว่า ชีวิตส่วนตัวของฉันชอบแต่งหญิง และฉันก็ยอมเปิดเผยตัวแบบนี้ต่อสังคม และทำให้คนอื่นมองเห็น ฉันสร้างบุคลิกภาพให้กับตัวเองซึ่งจะมีอยู่ตลอดเวลาที่ฉันกำกับหนังเหล่านี้   ในการสัมภาษณ์นักแสดงบางคน พบว่าพวกเขายกย่องลารูเพราะลารูให้ความเคารพนักแสดงและดูแลนักแสดงขณะถ่ายหนัง ซึ่งบางครั้งอาจดูแลไปจนถึงเรื่องอื่นๆนอกเหนือจากการทำงานด้วย
            ชี ชี ปรากฏตัวบนหนังในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการหนังโป๊เกย์    ในช่วงนั้น จีโน่ โคลเบิร์ตซึ่งเป็นผู้กำกับหนังโป๊เกย์ที่มีชื่อเสียงในด้านการสร้างเรื่องราวที่ละเอียดซับซ้อน มีการสร้างที่พิถีพิถันและเน้นทักษะการแสดงของดารา  สำหรับหนังสือโป๊เกย์จะนำดาราหนังโป๊ไปถ่ายแบบ เช่นเดียวกันสื่อชนิดอื่นๆที่เผยแพร่ในหมู่เกย์  นิตยสารเกย์ที่ได้รับความนิยม เช่น Genre มีบทสัมภาษณ์นักแสดงเกย์ เช่น เคน ไรเกอร์    นิตยสารเกย์ที่แพร่หลายที่สุดคือ Out มีข้อเขียนสารคดีเกี่ยวกับอุตสาหกรรมหนังโป๊ออกเผยแพร่ เช่นเดียวกับนิตยสารคู่แข่งเช่น The Advocate ซึ่งเป็นนิตยสารที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมาตั้งแต่ยุค 1970 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการเคลื่อนไหวของกลุ่มเกย์  นิตยสาร The Advocate นำเสนอทั้งข่าวและบทความ การโฆษณาและเรื่องราวเกี่ยวกับเซ็กซ์ รวมทั้งมีโฆษณาเกี่ยวกับสินค้าวีดิโอและหนังโป๊เกย์ที่ออกใหม่   ในปี ค..1993  นิตยสาร The Advocate พยายามที่จะเปลี่ยนสถานะตัวเองไปเป็นสิ่งพิมพ์แนวใหม่เพื่อที่จะแข่งขันกับนิตยสาร Out โดยการเพิ่มคอลัมน์ Advocate Classifieds ซึ่งเป็นคอลัมน์โฆษณาประกาศรับสมัครงานและการขายสินค้าทางเพศ และเพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องเล่าประสบการณ์ทางเพศ
            เดฟ คินนิค ซึ่งทำงานในวงการผลิตวีดิโอ เขียนบทความลงในคอลัมน์ Advocate Classifieds สัปดาห์ละ 2 บทความ รวมทั้งมีบทสัมภาษณ์นักแสดงหนังโป๊อีกหลายบทความในคอลัมน์นี้ บทความของคินนิคเป็นเครื่องหมายของการยอมรับหนังโป๊ในฐานะเป็นผลผลิตสำคัญของการเสพกามารมณ์ของเกย์  ต่อมามีนักเขียนหน้าใหม่เข้ามาแทนที่คินนิคโดยเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับเรื่องซุบซิบนินทาในวงการหนังโป๊   คอลัมน์ Advocate Classifieds ค่อยๆพัฒนาไปเป็นนิตยสาร Unzipped  ซึ่งเป็นนิตยสารที่เน้นเรื่องราวงของธุรกิจหนังโป๊ โดยมีเนื้อหาเกี่ยวกับการนินทา บทสัมภาษณ์ ภาพโป๊ แนะนำวีดิโอใหม่ และเรื่องราวอื่นๆ  สิ่งพิมพ์เกย์ในท้องถิ่นหลายฉบับเริ่มมีคอลัมน์แนะนำวีดิโอ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นการหยอกล้อ คอลัมน์แนวนี้ที่มีชื่อเสียงได้แก่ คอลัมน์รายสองสัปดาห์ของริคและเดฟ ในนิตยสาร Frontiers ซึ่งอยู่ในแอลเอ  อุสาหกรรมหนังโป๊เกย์พัฒนาไปจนถึงมีการมอบรางวัลซึ่งได้รับการกล่าวขานบ่อยๆในนิตยสาร Starz  และ Skinflicks  รางวัลที่สำคัญในวงการหนังโป๊มีสองรางวัล คือ รางวัลจาก Gay Video Guides’ Gay Erotic Video Awards (GEVA) และ Gay Adult Video News Awards (GAVN) ทั้งสองรางวัลนี้ได้รับการสนับสนุนงบประมาณจากนิตยสาร Adult Video News ซึ่งเป็นสิ่งพิมพ์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับหนังโป๊  รางวัลจีวาจะมาจากการออกเสียงของนักวิจารณ์หนังโป๊และผู้ที่มีชื่อเสียง ส่วนรางวัล จีเอวีเอ็น จะมาจากคณะกรรมการเกย์นานาชาติ
            นักแสดงที่เคยทำงานเต้นรำในบารืเกย์มาก่อนจะกลายเป็นนักแสดงในหนังโป๊ เพราะการเป็นดาราหนังโป๊คือแหล่งหาเงินที่สำคัญ   การเต้นรำในบาร์เกย์เกิดขึ้นมานานแล้ว แต่ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1980 เริ่มมีการเต้นรำชนิดใหม่เกิดขึ้น  กล่าวคือ กลุ่มนักเต้นชายที่มีกล้ามจึงหันมาเต้นรำในบาร์เกย์ ซึ่งแต่เดิมเคยเต้นในบาร์ผู้หญิงหรือรู้จักในนามนักเต้นชิบเพนเดล  ในช่วงต้นยุค 1990 บาร์เกย์ส่วนใหญ่จะมีรายชื่อนักเต้นอยู่ในรายการประจำสัปดาห์  นักเต้นชายเหล่านี้จะมีเรือนร่างที่สวยงามสมบูรณ์ซึ่งสามารถเห็นได้ในหนังโป๊เกย์ในยุคปัจจุบัน  ในยุค 1990 นักแสดงหนังโป็เกย์จะใช้วีดิโอของพวกเขาเป็นเครื่องหมายทางการค้าเพื่อแสดงตัวตนและใช้เป็นใบเบิกทางเพื่อจะได้งานทำเป็นนักเต้นในบาร์เกย์ ซึ่งเป็นอาชีพที่มีรายได้งดงาม
            งานพิเศษเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับนักแสดงหนังโป๊ เพราะการแสดงหนังโป๊จะได้รับค่าตอบแทนไม่มากนัก  ค่าตอบแทนนักแสดงจะขึ้นอยู่กับความมีชื่อเสียง  ประสบการณ์ในการแสดง  บริษัทหนังและประเภทงานที่รับไปทำ  นักแสดงส่วนใหญ่จะได้รับค่าตัวแบบฉากต่อฉาก ฉากหนึ่งอาจได้ค่าตัวประมาณ 500-2,000 ดอลล่าส์  ดาราที่แสดงเป็นฝ่ายรุกอาจได้รับมากกว่าผู้ที่แสดงเป็นฝ่ายรับ ในวงการหนังโป๊ชายหญิงก็ใช้แนวคิดเดียวกันนี้  ที่เป็นเช่นนี้เพราะนักแสดงที่มีองคชาติแข็งตัวได้นานเป็นสิ่งที่มีค่ามาก  แต่ค่าตอบแทนของนักแสดงหนังโป๊นี้จะไม่มีค่าประกันรักษาพยาบาล
            นักแสดงหนังโป๊เกย์หลายคนจะหางานอื่นๆทำนอกเหนือจากแสดงหนัง    นิตยสาร Unzipped เผยแพร่บทความเกี่ยวกับนักแสดงหนังโป๊ ชื่อเรื่อง “Day Jobs” หรือ งานกลางวัน เช่น การเป็นเสมียนโรงแรม ครูฝึกบริหารร่างกาย ที่ปรึกษาการเงิน นายหน้าขายที่ดิน และ คนดูแลผู้ป่วย   อย่างไรก็ตามอาชีพโสเภณีเป็นอาชีพที่นักแสดงมักจะใช้เป็นช่องทางหาเงิน  เช่น การขายบริการทางเพศผ่านโทรศัพท์เป็นอาชีพที่ได้เงินดี  นักแสดงหนังโป๊คนหนึ่ง ชื่อบลู เบลค อธิบายว่าการขายบริการทางเพศผ่านโทรศัพท์ได้เงินจำนวนมาก  นิตยสาร Unzipped  และ Fronteirs จะมีโฆษณาเกี่ยวกับการขายบริการทางโทรศัพท์มาก ในโฆษณาเหล่านี้จะมีรูปภาพของนายแบบติดอยู่ด้วย  โฆษณาหลายชิ้นจะมีการอธิบายว่านายแบบที่ขายบริการนี้เป็นนักแสดงหนังโป๊ หรือเคยเป็นนักแสดงหนังโป๊มาก่อน หรือเป็นนายแบบถ่ายนู้ด  อาจกล่าวได้ว่าวงการหนังโป๊ทำให้เกิดอาชีพค้าบริการทางเพศผ่านโทรศัพท์ตามมา ค่าบริการโดยเฉลี่ยประมาณชั่วโมงละ 250 ดอลล่าส์ ซึ่งเป็นรายได้ที่ดีกว่าการแสดงหนังโป๊  อย่างไรก็ตาม การค้าบริการทางเพศทางโทรศัพท์จะเกี่ยวกพันกับวงการหนังโป๊ซึ่งเป็นประเด็นที่มีการพูดคุยกันมากในเว็บไซต์เกย์ เช่น พูดถึงการมีเซ็กซ์กับดาราหนังโป๊ หรือสั่งซื้อบริการทางเพศผ่านโทรศัพท์ เป็นต้น  ในเว็บไซต์เหล่านี้จะมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูล และแนะนำชักชวนเกี่ยวกับการซื้อบริการจากโสเภณีชาย ซึ่งมีอยู่ในวงการและนอกวงการหนังโป๊
            อุตสาหกรรมหนังโป๊เกย์มีความสำคัญควบคู่ไปกับวงการหนังโป๊ชายหญิง แต่ขณะเดียวกันก็มีส่วนต่างอยู่บ้าง  ทั้งวงการหนังโป๊เกย์และหนังโป๊ชายหญิงมีการเติบโตพอๆกันในช่วงการขยายตัวของตลาดวีดิโอในยุค 1980  วงการหนังโป๊ทั้งสองนี้ต่างพัฒนาระบบของนักแสดงขึ้นมา ซึ่งทำให้เกิดนักแสดงที่มีชื่อเสียงซึ่งได้รับค่าตอบแทนสูงและมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี  นอกจากนั้นวงการหนังโป๊เหล่านี้ยังมีศูนย์กลางที่เมืองลอสแองเจลีส  นักแสดงชายบางคนในหนังโป๊ชายหญิงอาจมาแสดงในหนังโป๊เกย์ในฉากที่มีการสำเร็จความใคร่ รวมถึงนัแสดงหญิงบางคนอาจมาปรากฏตัวในหนังโป๊เกย์บ้าง เช่น ชารอน เคน  หนังโป๊เกย์ต่างได้รับผลประโยชน์ในช่วงที่วงการหนังโป๊กำลังรุ่งเรือง หนังโป๊เหล่านี้จะถูกจัดประเภทแตกต่างกัน เช่น ประเภทมือสมัครเล่น ประเภทนักมวยปล้ำ ประเภทแปลงเพศ ประเภททรมาน และอื่นๆ  นักแสดงหนังโป๊ชายหญิง เช่น นีน่า ฮาร์ตลีย์ เคยอธิบายว่าการเกิดขึ้นของแนวหนังโป๊หลายแนวเป็นเรื่องที่ดีสำหรับวงการหนังโป๊ในช่วงทศวรรษที่ 1990





















            อย่างไรก็ตาม หนังโป๊ชายหญิงจะให้ความสำคัญกับบทบาทผู้หญิงมากกว่า ส่วนผู้ชายจะเป็นเพียงนักแสดงสนับสนุนเท่านั้น โปสเตอร์โฆษณาหนังก็จะมีแต่รูปผู้หญิง  ผู้ชายจะปรากฎเพียงบางส่วนของร่างกาย หรือเห็นแต่อวัยวะเพศ  ผู้ชายจึงมีบทบาทน้อยกว่าผู้หญิงในวงการหนังโป๊ชายหญิง (รวมทั้งได้เงินน้อยกว่า) ด้วยเหตุผลนี้จึงทำให้นักแสดงชายหันไปเล่นหนังโป๊เกย์  ข้อแตกต่างอีกประการหนึ่งก็คือ วงการเกย์ไม่มีหนังกึ่งโป๊หรือ soft-core   หนังโป๊ชายหญิงหลายเรื่องจะผลิตออกมาสองชนิด คือชนิดที่เป็นโป๊เปลือย เพื่อขายแก่ลูกค้าที่ซื้อไปดูที่บ้าน และชนิดที่เป็นกึ่งโป๊เปลือยเพื่อฉายในรายการสำหรับผู้ใหญ่ทางโทรทัศน์แบบสมาชิก  แต่หนังโป๊เกย์จะไม่มีการฉายทางโทรทัศน์ ถึงแม้ว่าบริษัทบางแห่งจะพยายามสร้างหนังเกย์แบบกึ่งโป๊เปลือยออกมาบ้างก็ตาม เช่น บริษัทกรีนวู้ด ซึ่งสร้างหนังแบบกึ่งโป๊ ที่ไม่เห็นอวัยวะเพศและไม่มีการร่วมรักแบบสอดใส่

            คำถามคือ ใครคือผู้ที่ดูหนังโป๊เกย์  ยังไม่มีการศึกษาทางสถิติ แต่อาจตัดสินได้จากสิ่งที่ปรากฎในสื่อสิ่งพิมพ์สำหรับเกย์ หรือในคำวิจารณ์ของกลุ่มเกย์ที่พบเห็นบ่อยๆ  ประมาณปี ค..1979 หนังสือโป๊คือวิธีการแสดงออกของสื่อโป๊เปลือยที่สำคัญ จากการศึกษาอย่างไม่เป็นทางการพบว่า  มีมากกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของเกย์จำนวน 1,038 คนที่สารภาพว่าตนเองใช้ภาพโป๊เพื่อสำเร็จความใคร่   นิตยสาร Frontiers ได้สำรวจผู้อ่านในปี ค..1997 พบว่าประมาณหนึ่งในสามของผู้อ่านจะดูหนังโป๊ประมาณเดือนละ 1 ครั้ง และประมาณ 15 เปอร์เซ็นต์จะดูหนังโป๊สัปดาห์ละ 1 ครั้ง  ครึ่งหนึ่งของผู้ที่ดูหนังโป๊จะดูร่วมกับคนอื่น และอีกครึ่งหนึ่งจะดูคนเดียว  เมื่อมีการถามว่าคิดอะไรอยู่ขณะดูหนังโป๊ เกือบ 30 เปอร์เซ็นต์จะจินตนาการว่ากำลังร่วมรักกับนักแสดง  แต่บางคนจะจินตนาการว่าตนเองเป็นนักแสดง และ 25 เปอร์เซ็นต์จะจินตนาการทั้งสองอย่าง

สิ่งที่น่าคิด


            หนังโป๊เกย์กลายเป็นจุดศูนย์กลางของชีวิตเกย์ในยุคปัจจุบัน  เมื่อหนังโป๊เกย์มีพัฒนาการในเรื่องของการผลิต การสร้าง และมีความหลากหลายมากขึ้น ย่อมสะท้อนให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงเกี่ยวกับทัศนะคติและรูปแบบการใช้ชีวิตของชาวเกย์  นอกจากนั้น หนังโป๊ยังมีบทบาทสำคัญในวัฒนธรรมและสังคมของเกย์ในอเมริกา
            สิ่งที่ทำให้หนังโป๊เกย์แตกต่างจากหนังโป๊ชายหญิงก็คือ  หนังโป๊เกย์คือส่วนหนึ่งของชีวิตเกย์ ในขณะที่หนังโป๊ชายหญิงเป็นสิ่งแปลกปลอมหรือเป็นสิ่งชั่วร้ายในสังคมกระแสหลัก  ในวัฒนธรรมเกย์ หนังโป๊มักจะถูกเชิดชู (และถูกยอมรับ) มากกว่า  เนื่องจากเกย์ถูกมองว่าเป็นพวกผิดเพศ ชาวเกย์จึงไม่สนใจกับการเป็นพวกวิปริต     ไมเคิล บรอนสกี้อธิบายว่าวัฒนธรรมรักต่างเพศจะคิดว่าหนังโป๊เป็นอันตรายร้ายแรง และหนังโป๊เกย์ก็จะยิ่งร้ายแรงมากกว่านั้น   ถึงแม้ว่าการปฏิวัติทางเพศจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง แต่สังคมอเมริกาส่วนใหญ่ก็ยังคงขัดขวางการแสดงออกทางเพศต่อสาธารณะ  แม้แต่การแสดงความเป็นชายหญิงก็ตาม   คำถามคือ ท่ามกลางสังคมที่มีความเกลียดและหวาดกลัวผู้ที่แสดงพฤติกรรมทางเพศแบบเกย์ อะไรคือสิ่งที่ยืนยันความเป็นเกย์ได้ดีกว่าการเปิดเผยตัว  ในสื่อของเกย์หลายประเภทต่างมีภาพกามารมณ์เผยแพร่อยู่ทั่วไป สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าชาวเกย์พยายามสร้างนิยามในเชิงบวกให้กับตัวเอง
            ชาร์ลส์ อิสเชอร์วู้ด เคยกล่าวว่า การเปิดเผยตัวในทศวรรษที่ 1980 เกิดขึ้นมาท่ามกลางบรรยากาศที่เกย์ออกมาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพ ตัวอย่างเช่น กลุ่มเคลื่อนไหวชื่อ ACT-UP  นับแต่นั้นหนังโป๊จะกลายเป็นสิ่งบ่งบอกความเป็นเกย์  แต่สังคมยังคงกระวนกระวายใจต่อเรื่องเพศและเรื่องเกี่ยวกับความโป๊เปลือย ซึ่งทำให้เกย์ต้องหันมาชื่นชมหนังโป๊เพื่อที่จะต่อต้านมาตรฐานทางศีลธรรมของสังคมซึ่งถูกครอบงำโดยรักต่างเพศ  การชื่นชมหนังโป๊ของเกย์คือการเผชิญหน้ากับวัฒนธรรมรักต่างเพศซึ่งพยายามปราบปรามหนังโป๊ด้วยความหวาดกลัว
            ในชุมชนเกย์ หนังโป๊กลายเป็นเรื่องปกติและมีอยู่ทุกๆวัน  แบรดลีย์ มอสลีย์-วิลเลียมส์ เคยกล่าวว่า หนังโป๊ได้รับการยอมรับในชุมชนเกย์ ซึ่งพวกเราดูหนังโป๊กันอย่างบ้าคลั่งและซ้ำซาก  ตามถนนสายซานต้า มอนิกา ในเขตเวสต์ฮอลลีวู้ด จะเป็นย่านของชาวเกย์ในลอสแองเจลีส  บริเวณนี้จะมีป้ายโฆษณาขนาดใหญ่และมีโฆษณาหนังโป๊ เช่น เรื่อง Idol in the sky นำแสดงโดยดาราดังไรอัน ไอดอล และเรื่อง Ryker’s Romance หนังโป๊ที่นำมากลับมาฉายใหม่ซึ่งนำแสดงโดยดาราเคน ไรเกอร์ ซึ่งโด่งดังในต้นยุค 1990  ภาพดาราหนังโป๊อย่าง ทอมมี่ เชส จะปรากฏอยู่บนป้ายโฆษณาร้านขายหนังโป๊เกย์ในเมืองฮุสตันในปี ค..1998  สำหรับหนังโป๊ชายหญิง ป้ายโฆษณาหนังโป๊แบบนี้อาจเป็นเรื่องแปลกเพราะการโฆษณาหนังโป๊ชายหญิงจะมีอยู่ในร้านเท่านั้น
            ในขณะที่หนังโป๊ชายหญิงสูยเสียมนต์ขลังของตัวเองไปยาวนาน นับตั้งแต่มีหนังยอดนิยม เช่น Deep Throat (1972)  และ Behind the Green Door(1973) แต่ปัจจุบันหนังเหล่านี้ไม่ค่อยมีใครจดจำ  สำหรับหนังโป๊เกย์ได้รับความนิยมและชาวเกย์ก็ยอมรับ  การแลกเปลี่ยนหนังโป๊ในกลุ่มเกย์เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไป  การเช่าหนังโป๊เกย์สามารถหาเช่าได้ในร้านต่างๆ  ร้านหนังสือเกย์เช่น ร้านโลโบในเท็กซัส หรือ ร้านเกย์เพลสเชอร์ในนิวยอร์ค คือร้านที่ดำเนินธุรกิจขายและให้เช่าหนังโป๊ ควบคู่ไปกับการขายหนังสือยอดนิยมจากนิวยอร์คไทม์และธงสายรุ้ง    โรเบิร์ต ฮอฟเลอร์  กล่าวว่าดาราหนังโป๊เกย์จะไปร่วมงานเปิดตัวดิสโก้เธค และงานปาร์ตี้ต่างๆ  งานในวงการหนังโป๊ยังแพร่กระจายไปถึงเขตเวสต์ฮลลีวู้ด แต่ผู้ที่เข้ามาทำงานในวงการนี้จะไม่ได้รับการกล่าวถึง  ผู้ผลิตและผู้กำกับชื่อ รอนนี่ ลาร์เซ่น ทำธุรกิจเกี่ยวกับการสร้างหนังและสารคดีเกี่ยวกับวงการหนังโป๊เกย์   ละครของเขาเรื่อง Making Porn เปิดการแสดงในปี ค..1994 ในลอสแองเจลีส และหมุนเวียนไปแสดงในเมืองต่างๆทั่วอเมริกา  ชาวเกย์ต่างซื้อตั๋วเข้าไปชมละครของรอนนี่อย่างคับคั่ง  ผลงานเรื่องต่อมาของรอนนี่คือสารคดีเรื่อง Shooting Porn สร้างในปี ค..1997  ผู้กำกับอีกคนหนึ่งเป็นชาวเยอรมันชื่อโยเช่น ฮิค สร้างหนังสารคดีเรื่อง Sex/Life in L.A.  เป็นเรื่องราวของการทำงานทางเพศของเกย์ในลอสแองเจลิสโดยชี้ให้เห็นระดับของค่าตอบแทนในอาชีพ หนังเรื่องนี้ถูกนำไปฉายในงานเทศกาลภาพยนตร์สำหรับเกย์หลายเทศกาล  หนังโป๊เกย์มีเรื่องราวหลายแบบ รวมทั้งเรื่องในวงการเอง เช่น Giants(1983)  และ The Making of a Gay Video(1995)  หนังเรื่อง Bad Boy’s Ball เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเบื้องหลังชีวิตของนักแสดงหนังโป๊เกย์ที่ต้องเปลี่ยนการแสดงไปเรื่อยๆ  นอกจากนั้นยังมีการสัมภาษณ์แบบเจาะลึกของนักแสดงหนังโป๊เกย์  ในขณะที่มีการสร้างหนังเกี่ยวกับเบื้องหลังวงการหนังโป๊ชายหญิงออกมามากมาย แต่วงการหนังโป๊ชายหญิงไม่มีอะไรน่าสนใจเมื่อเทียบกับวงการหนังโป๊เกย์และดาราหนังเกย์ซึ่งมีสื่อนำไปเผยแพร่ตลอดเวลา  สิ่งพิมพ์ของเกย์จะมีบทสัมภาษณ์นักแสดงหนังโป๊เกย์ พร้อมทั้งมีบทความเกี่ยวกับเรื่องการท่องเที่ยว การเมือง และการสร้างสัมพันธ์ทางสังคม  สื่อในโลกของรักต่างเพศมักจะตำหนิติเตียนหนังโป๊ หรือประณามว่าหนังโป๊เปรียบเสมือนของแปลกพิศดารและลี้ลับ
            หนังโป๊เกย์อาจจะสะท้อนให้เห็นภาพความสัมพันธ์ระหว่างชีวิตเกย์กับหนังโป๊  ในหนังเรื่อง Show Your Pride(1997) มีฉากหนึ่งเป็นการเดินพาเหรดของเกย์ มีขบวนรถของผู้กำกับ ชีชี ลารู ซึ่งถูกห้องล้อมด้วยดาราหนังโป๊เกย์ที่มีรูปร่างกำยำ นุ่งน้อยห่มน้อย กำลังเต้นในจังหวะดิสโก้ คล้ายกับการเต้นในบาร์เกย์  ฉากดังกล่าวนี้ดูขัดแย้งกับเสียงร้องครวญครางของนักแสดงที่พูดว่า จงภูมิใจในตัวของคุณซึ่งตรงข้ามกับเสียงเพลงดิสโก้  ฉากนี้ถูกนำมาใส่ในหนังระหว่างฉากร่วมรักหมู่ของเกย์  หนังเรื่องนี้เปิดเผยให้เห็นพื้นที่ของดาราหนังโป๊ที่เข้ามาอยู่ในชีวิตของเกย์ โดยนำเสนอผ่านการเดินพาเหรดและขบวนรถ ตัดสลับกับฉากเซ็กซ์ที่เร้าร้อน  หนังเรื่องนี้ยังเป็นสัญลักษณ์ของการเสพหนังโป๊ของชาวเกย์ที่ทำได้ง่ายดาย
            ถึงแม้ว่าหนังโป๊จะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตเกย์ แต่หนังโป๊เกย์ก็ถูกวิจารณ์ด้วยเหมือนกัน  นักวิจารณ์ เช่น ไมเคิลแองเจโล ซิกนอริล และแดเนียล แฮร์ริส ซึ่งกล่าวเสียดสีโจมตีหนังโป๊เกย์ และการแสดงเรือนร่างกำยำของเกย์ว่าเป็นการสร้างตัวแบบทางเพศและความงามในแง่ลบและเป็นไปไม่ได้   คำวิจารณ์หนังโป๊เกย์คล้ายๆกับคำวิจารณ์ที่มีต่อหนังโป๊ชายหญิง ในประเด็นที่ว่าหนังโป๊สร้างความรุนแรง ลดศักดิ์ศรี และทำให้ผู้หญิงเป็นวัตถุทางเพศ  ข้อวิจารณ์นี้มาจากสมมุติฐานที่ว่าภาพโป๊เปลือยทั้งหลายคือสิ่งที่ก้าวร้าวและทำให้เสื่อมศีลธรรม  ในส่วนของหนังโป๊เกย์ จะมีฝ่ายหนึ่งแสดงบทบาทเป็นฝ่ายรับจะหมายถึงผู้ที่ถูกกดขี่ ถูกปราบและไร้ศักดิ์ศรี ผู้ที่แสดงบทรับนี้อาจคล้ายกับบทบาทผู้หญิงในหนังโป๊สำหรับชาย  ในแง่นี้ (ข้อโต้แย้งดำเนินต่อไป) ทำให้หนังโป๊เกย์คือการทำตามบรรทัดฐานของรักต่างเพศที่นิยมความรุนแรงและการแบ่งแยกเพศ
            ข้อโต้แย้งของโธมัส โวกฮ์ และสก๊อตต์ ทักเกอร์ อธิบายว่าเกย์อาจจะนิยามตัวเองจากฉากร่วมรักและบทบาทของนักแสดงหนังโป๊ ซึ่งเกย์อาจจะไม่ยึดมั่นกับบทบาทเหล่านี้มากนัก   เพราะนักแสดงต้องเปลี่ยนบทบาทเป็นทั้งฝ่ายรุกและฝ่ายรับ ซึ่งอาจเกิดขึ้นในฉากๆเดียว  ฉะนั้นความเป็นตัวตนของฝ่ายรับซึ่งถูกมองว่าถูกกดขี่ข่มเหงอาจเป็นเรื่องที่น่าสงสัย และไม่สอดคล้องกับชีวิตจริงของเกย์  ในขณะที่วงการหนังโป๊ชายหญิงจะถูกวิจารณ์ว่ากดขี่ข่มเหงสตรี  แต่นักแสดงผู้หญิงในหนังโป๊ทั้งของเกย์และชายหญิงไม่เคยออกมาพูดว่าถูกกดขี่ข่มเหงเลย   ในทางปฏิบัติ การสร้างภาพโป๊เปลือยของเกย์จะเป็นสิ่งต้องห้ามมากกว่าจะเป็นตัวแบบทางเพศในสังคม   คาร์ล สไตชินออกมาโต้แย้งอย่างหนักแน่นในเรื่องอิสรภาพของหนังโป๊เกย์ โดยใช้แนวคิดของเฟมินิสต์มาอธิบายว่า เมื่อเอ่ยถึงหนังโป๊เกย์ เราก็มักจะคิดถึงการแสดงออกทางเพศที่ถูกสังคมประณามและไม่ยอมรับ ซึ่งแท้จริงแล้วหนังโป๊เกย์ก็ใช้ความคิดเรื่องเพศและกามารมณ์ในแบบผู้ชายเป็นใหญ่
            การยอมรับหนังโป๊ของเกย์ยังทำให้เกิดประเด็นทางการเมือง  เมื่อกลุ่มหัวรุนแรงทางศาสนาพยายามออกมาโจมตีว่าเกย์เป็นพวกที่ชอบเซ็กซ์  คำถามคือ สังคมจะเชื่อตามความคิดของพวกเคร่งศาสนาหรือไม่  ในบางกรณี คนบางกลุ่มอาจเชื่อแบบนั้น แต่ความเชื่อในแง่ลบแบบนี้อยู่อยู่ตรงข้ามกับความเชื่อในแง่บวก ซึ่งอธิบายว่าเกย์คือการแสดงตัวตนทางเพศแบบหนึ่ง และปฏิเสธตัวแบบที่มีมลทิน  การแสดงออกของคนรักเพศเดียวกันในที่สาธารณะ จะเป็นสิ่งที่อันตรายและแสดงออกไม่ได้สำหรับเกย์  ซึ่งหนังโป๊เกย์เป็นเพียงวิธีการแสดงออกอย่างหนึ่งที่ทำให้เห็นว่าเพศของเกย์ไม่ใช่สิ่งที่เลวร้าย

อนาคตของหนังโป๊เกย์
















ในทศวรรษที่ 1990 เราจะเห็นการปรับปรุงเทคนิคการสร้างหนังโป๊เกย์ พร้อมๆกับการขยายตัวของตลาดผู้ชมหนังโป๊เกย์  ความหลากหลายที่เพิ่มขึ้น ทั้งในด้านนักแสดงและรูปแบบของหนังโป๊  ในอนาคต เมื่อตลาดผู้ชมหนังโป๊เริ่มชะลอตัว ผู้สร้างหนังโป๊จะต้องหาแนวทางใหม่ๆในการสร้างหนัง  นายแบบหนังโป๊จะมีรูปร่างหน้าตาที่หลากหลายมากขึ้น  ดาราหนังโป๊ที่มีอายุมากกว่า 30 ปี จะกลายเป็นกลุ่มใหญ่ในวงการ แต่หนังโป๊ที่ใช้ดาราหนุ่มๆก็ยังได้รับความนิยมต่อไป  ในที่สุด วงการหนังโป๊เกย์จะคำนึงถึงจริยธรรมที่หลากหลายมากขึ้น

            หนังแนวที่ผู้กำกับเข้าไปแสดงด้วย หรือ gonzo ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของวงการหนังโป๊ชายหญิง ไม่ค่อยมีให้เห็นในหนังโป๊เกย์   หนังโป๊แบบผู้กำกับเข้าไปร่วมแสดงทำให้เกิดมิติที่สี่ ระหว่างผู้กำกับ และเรื่องราว และเป็นกำแพงระหว่างคนดูและนักแสดง   หนังแนวนี้อาจไม่มีเทคนิคซับซ้อน เพราะใช้กล้องแบบมือถือ ช่างภาพจะทำหน้าที่กำกับไปด้วย และจะเคลื่อนที่ไปพร้อมกับนักแสดง  ตากล้องอาจบอกบทและกำกับนักแสดงในขณะที่กำลังถ่ายภาพ หรืออาจเข้าไปร่วมแสดงด้วย  วิธีการสร้างหนังแนวนี้จะใกล้เคียงกับการถ่ายหนังของมือสมัครเล่น ซึ่งเป็นแนวที่กำลังได้รับความสนใจ  สมาชิกของกลุ่มสร้างหนังโป๊เกย์มือสมัครเล่นกำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และการสร้างหนังโป๊แนวนี้ก็กำลังเพิ่มขึ้น
            หนังโป๊ของมือสมัครเล่นและแบบที่ผู้กำกับเล่นเองคือตัวอย่างที่สำคัญที่ทำให้เห็นความนิยมดูหนังโป๊ของเกย์ที่เพิ่มขึ้น  ตลาดหนังโป๊เกย์ประกอบด้วยหนังหลากหลายแนว  หนังโป๊เกย์จึงมีตลาดขนาดใหญ่ ซึ่งมีหนังหลายแนว เช่น หนังมวยปล้ำ หนังแนวทารุณ แนวเฆี่ยนตีกักขัง แนวขยะแขยง และมีดาราหลายเชื้อชาติ
บริษัทหนังชื่ออัลโตมาร์สร้างหนังโป๊ที่มีนักแสดงอายุตั้งแต่ 40 ปีจนถึง 70 ปี  บริษัทนี้ยังผลิตหนังโป๊ที่เน้นให้เห็นอวัยวะเพศชายที่ยังไม่ผ่านการขลิบและมีหนังหุ้มปลาย  ตลาดหนังโป๊เกย์กลายเป็นสัดส่วนขนาดใหญ่ในวงการหนังโป๊ และในเวลาเดียวกันเกย์หลายคนก็เริ่มคิดว่าหนังโป๊ตอบสนองรสนิยมส่วนตัวของพวกเขา
            สิ่งที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์เหล่านี้ก็คืออินเตอร์เน็ตและเว็บไซต์  หนังโป๊เกย์จะถูกนำไปโฆษณาทางเว็บไซต์ซึ่งเป็นช่องทางธุรกิจที่สำคัญ ถึงแม้ว่ารัฐจะเข้ามายับยั้งเว็บไซต์โป๊ แต่ภาพโป๊ทางอินเตอร์เน็ตยังคงมีเพิ่มมากขึ้น  บริษัทหลายแห่งพยายามสร้างเว็บไซต์ รวมทั้งนักแสดงหนังโป๊หลายคนก็เข้ามาสร้างเว็บของตัวเอง โดยเฉพาะนักแสดงที่ขายบริการผ่านโทรศัพท์  เทคโนโลยีสมัยใหม่ (เช่นวีดิโอออนไลน์ ซีดีรอม) กำลังเป็นเครื่องมือสำคัญของหนังโป๊ที่จะเข้าถึงกลุ่มลูกค้า
            ในขณะที่การเปิดเผยเรื่องเพศเป็นสิ่งสำคัญในหนังโป๊เกย์ แต่แนวโน้มในปัจจุบันพบว่าหนังโป๊ที่มีเรื่องราวและรูปแบบการนำเสนอใหม่ๆกำลังได้รับความนิยม  ในปี ค..1997 หนังที่ได้รางวัล GEVA และ GAVN คือ Naked Highway เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการเดินทางบนถนนซึ่งคล้ายกับหนังเรื่อง Thelma and Louise และ Easy Rider  หนังเรื่อง Naked Highway ดำเนินเรื่องโดยใช้ฉากย้อนหลัง ใช้มุมกล้อง และการตัดต่อที่มีคุณภาพทำให้เกิดหนังที่โดดเด่นในการเล่าเรื่อง   ในขณะที่กลุ่มคนดูยังคงนิยมหนังโป๊ที่เน้นฉากเซ็กซ์ แต่หนังที่มีเรื่องราวซับซ้อนอย่าง Naked Highway ก็เริ่มมีการสร้างมากขึ้น อาจกล่าวได้ว่าหนังโป๊ทั้งสองแนวที่กล่าวมาข้างต้น คือสิ่งที่ยังคงเป็นพลังสำคัญในการขับเคลื่อนวัฒนธรรมเกย์ต่อไป

แปลและเรียบเรียงโดย นฤพนธ์ ด้วงวิเศษ จาก Joel A. Thomas. “Gay Male Video Pornography : Past, Present, and Future” in Ronald Weitzer (ed.) Sex for Sale. Routledge, New York. 2000. Pp.49-66.
           

ไม่มีความคิดเห็น: